โปรแกรม รักษาฝ้า ที่ Pattippa Clinic เป็นโปรแกรมการดูแลและรักษาผิวที่ออกแบบมาเพื่อแก้ปัญหาฝ้าอย่างตรงเป้าหมาย ด้วยเทคโนโลยีและผลิตภัณฑ์ที่อัพเดตในวงการเสริมความงาม โปรแกรมนี้สามารถช่วยลดเลือนฝ้าและจุดด่างดำที่เกิดจากการสะสมของเม็ดสีเมลานินในผิวหนัง ซึ่งมักเกิดจากการโดนแสงแดด การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน และปัจจัยทางพันธุกรรม Pattippa Clinic มีแพทย์ที่มีทักษะและเข้าใจปัญหาผิวของลูกค้าเป็นอย่างดี ช่วยให้สามารถวางแผนการรักษาตามสภาพปัญหาของคนไข้ได้

ฝ้าคืออะไร?

ฝ้า คือปัญหาผิวที่เกิดจากการสะสมของเม็ดสีเมลานินในชั้นผิวหนัง ทำให้เกิดจุดสีน้ำตาลหรือสีดำที่ดูไม่สม่ำเสมอบนผิว ฝ้ามักเกิดขึ้นที่บริเวณใบหน้า โดยเฉพาะบริเวณโหนกแก้ม หน้าผาก จมูก และคาง ฝ้าเป็นปัญหาผิวที่สามารถพบได้ทั้งในผู้หญิงและผู้ชาย แต่จะพบบ่อยในผู้หญิงมากกว่า สาเหตุของฝ้าเกิดจากหลายปัจจัย ได้แก่ แสงแดด การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน พันธุกรรม ไอความร้อน และการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีสารเคมีรุนแรง

โปรแกรมรักษาฝ้าที่ Pattippa Clinic

โปรแกรมรักษาฝ้าที่ Pattippa Clinic ถูกออกแบบมาเพื่อให้การรักษาเป็นไปอย่างตรงเป้าหมาย  แพทย์ของคลินิกจะประเมินสภาพผิวและลักษณะของฝ้าแต่ละประเภท เพื่อเลือกวิธีการรักษาที่เหมาะสม โดย Pattippa Clinic มีเลเซอร์และวิธีการรักษาฝ้าที่หลากหลาย สามารถตอบโจทย์ผู้ที่ต้องการรักษาฝ้าให้จางลงได้ ซึ่งวิธีการรักษาฝ้าที่ได้รับความนิยม ได้แก่ เลเซอร์ลดฝ้า การทำผลัดเซลล์ผิว(chemical peeling) การทำ โปรแกรมพีอาร์พี การทายาหรือใช้ผลิตภัณฑ์ไวท์เทนนิ่ง และการใช้ครีมกันแดดที่เหมาะสม

วิธีการรักษาฝ้าที่ Pattippa Clinic

  1. การรักษาฝ้าด้วยเลเซอร์ (Laser Treatment)
    เลเซอร์เป็นเทคโนโลยีที่มีประสิทธิภาพในการลดเลือนฝ้า โดยการยิงพลังงานเลเซอร์ลงสู่ชั้นผิวเพื่อทำลายเม็ดสีเมลานินที่สะสมในบริเวณที่เกิดฝ้า เทคโนโลยีเลเซอร์ที่ใช้ที่ Pattippa Clinic มีหลายประเภท เช่น Q-Switched ND  YAG
    Laser( คิวสวิชต์เลเซอร์ ) และ Pico second Laser (พิโคเลเซอร์) ซึ่งช่วยลดเลือนฝ้าได้อย่างมีประสิทธิภาพและกระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวใหม่ ทำให้ผิวดูกระจ่างใสและสม่ำเสมอมากขึ้น
  2. การทำ  Program PRP (Platelet-Rich Plasma)
    PRP เป็นเทคนิคการใช้พลาสมาที่สกัดจากเลือดของผู้เข้ารับบริการเอง ซึ่งอุดมไปด้วยโกรทแฟคเตอร์ที่มีประโยชน์ต่อการฟื้นฟูผิว PRP จะช่วยกระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวใหม่และลดการสร้างเม็ดสี เมลานิน ทำให้ผิวหน้าดูกระจ่างใส รอยฝ้าจางลง และผิวดูมีสุขภาพดี
  3. การทายาหรือใช้ผลิตภัณฑ์ไวท์เทนนิ่ง (Whitening Products)
    Pattippa Clinic ใช้ผลิตภัณฑ์ไวท์เทนนิ่งที่มีส่วนผสมที่ช่วยยับยั้งการผลิตเม็ดสีเมลานิน เช่น วิตามิน C กรดโคจิก อาร์บูติน และไนอาซินาไมด์ ซึ่งเป็นส่วนผสมที่ช่วยให้ฝ้าจางลงอย่างปลอดภัย ทำให้สีผิวสม่ำเสมอและกระจ่างใสมากขึ้น
  4. การทำ Chemical Peeling
    การทำ Chemical Peeling ใช้กรดผลไม้ เช่น AHA (Alpha Hydroxy Acid) และ BHA (Beta Hydroxy Acid) ในการผลัดเซลล์ผิวเก่าออก ช่วยลดเลือนฝ้าและทำให้ผิวดูเรียบเนียนขึ้น การผลัดเซลล์ผิวจะช่วยลดการสะสมของเม็ดสีเมลานินในชั้นผิว ทำให้ฝ้าดูจางลงอย่างเป็นธรรมชาติ
  5. การใช้ครีมกันแดดที่มีค่า SPF สูง
    ครีมกันแดดเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ในการรักษาฝ้า เพราะแสงแดดเป็นสาเหตุหลักที่กระตุ้นการเกิดฝ้า Pattippa Clinic แนะนำให้ผู้เข้ารับบริการใช้ครีมกันแดดที่มีค่า SPF 30 PA+++ขึ้นไป เพื่อปกป้องผิวจากรังสี UV ที่ทำให้ฝ้ากลับมาเกิดใหม่

ประโยชน์ของการรักษาฝ้าที่ Pattippa Clinic

  1. ลดเลือนฝ้าและจุดด่างดำอย่างตรงเป้าหมาย
    ด้วยเทคโนโลยีที่อัพเดทและผลิตภัณฑ์ที่มีประสิทธิภาพ Pattippa Clinic ช่วยลดเลือนฝ้าและจุดด่างดำให้จางลงได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ผิวดูกระจ่างใสขึ้น
  2. ปรับสีผิวให้สม่ำเสมอและเรียบเนียน
    การรักษาฝ้าช่วยปรับสีผิวให้ดูสม่ำเสมอ ลดความหมองคล้ำ ทำให้ผิวหน้าดูสุขภาพดีและมีความกระจ่างใสมากยิ่งขึ้น
  3. กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและฟื้นฟูผิว
    เทคโนโลยีที่ใช้ในการรักษาฝ้าที่ Pattippa Clinic เช่น เลเซอร์และ Program PRP ช่วยลดการสร้างเม้ดสีในผิว ทำให้ผิวแลดูอ่อนเยาว์และกระจ่างใส
  4. ลดโอกาสการเกิดฝ้าใหม่
    Pattippa Clinic เน้นการป้องกันการเกิดฝ้าใหม่ด้วยการแนะนำการใช้ครีมกันแดดและผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่เหมาะสม ซึ่งช่วยลดโอกาสการเกิดฝ้าซ้ำ
  5. ผลลัพธ์ที่ยาวนานและคุ้มค่า
    ด้วยการรักษาอย่างเป็นระบบและการให้คำแนะนำในการดูแลผิวหลังการรักษา ทำให้ผลลัพธ์ของการรักษาฝ้าคงอยู่นานและคุ้มค่า

ขั้นตอนการรักษาฝ้าที่ Pattippa Clinic

  1. การปรึกษาและวิเคราะห์สภาพผิว
    แพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะทำการตรวจวิเคราะห์สภาพผิวและลักษณะของฝ้า เพื่อวางแผนการรักษาที่เหมาะสมกับแต่ละบุคคล โดยการรักษาจะออกแบบตามความต้องการและสภาพผิวของผู้เข้ารับบริการ
  2. การทำความสะอาดผิวและเตรียมผิวสำหรับการรักษา
    ก่อนการรักษา ผิวหน้าจะถูกทำความสะอาดอย่างล้ำลึก เพื่อขจัดสิ่งสกปรกและเตรียมผิวให้พร้อมสำหรับการรักษาฝ้าในขั้นตอนถัดไป
  3. การรักษาฝ้าด้วยวิธีการที่เหมาะสม
    แพทย์จะทำการรักษาฝ้าด้วยเทคนิคที่เหมาะสม เช่น การยิงเลเซอร์ การทำProgram PRP การใช้ไวท์เทนนิ่ง หรือการทำ Chemical Peeling ขึ้นอยู่กับปัญหาผิวและลักษณะของฝ้าของแต่ละคน
  4. การให้คำแนะนำการดูแลผิวหลังการรักษา
    หลังการรักษาฝ้า แพทย์จะให้คำแนะนำในการดูแลตัวเองและการใช้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสม เพื่อลดการเกิดฝ้าใหม่และรักษาผลลัพธ์ให้ยาวนานยิ่งขึ้น

การดูแลตัวเองหลังการรักษาฝ้า

  1. หลีกเลี่ยงแสงแดดและใช้ครีมกันแดดเป็นประจำ
    หลังการรักษาฝ้า ควรหลีกเลี่ยงแสงแดดและทาครีมกันแดดที่มี SPF สูงทุกวัน เพื่อป้องกันฝ้ากลับมาอีก
  2. ใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่อ่อนโยน
    เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่มีสารเคมีรุนแรง และมีส่วนผสมที่ช่วยให้ผิวกระจ่างใส เช่น วิตามิน C หรืออาร์บูติน
  3. หลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของกรดรุนแรง
    การใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีกรดรุนแรงอาจทำให้ผิวระคายเคืองและทำให้ฝ้ากลับมาได้ง่าย ควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยน

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการรักษาฝ้า

  1. การรักษาฝ้าเจ็บไหม?
    การรักษาฝ้าด้วยเลเซอร์อาจรู้สึกเจ็บเล็กน้อย แพทย์จะใช้ยาชาเพื่อลดความเจ็บในระหว่างการรักษา
  2. การรักษาฝ้าต้องทำกี่ครั้งถึงจะเห็นผล?
    จำนวนครั้งขึ้นอยู่กับความลึกของฝ้าและการตอบสนองของผิว บางคนอาจเห็นผลตั้งแต่ครั้งแรก ในขณะที่บางคนอาจต้องทำซ้ำหลายครั้ง
  3. ผลลัพธ์ของการรักษาฝ้าอยู่ได้นานแค่ไหน?
    หากดูแลผิวหลังการรักษาตามคำแนะนำของแพทย์ ผลลัพธ์จะคงอยู่ได้นานและลดการเกิดฝ้าใหม่

ทำไมต้องเลือก Pattippa Clinic สำหรับการรักษาฝ้า

Pattippa Clinic มีแพทย์และเลเซอร์หลากหลายในการรักษาฝ้าที่อัพเดตอย่างต่อเนื่อง ช่วยให้การรักษาฝ้ามีประสิทธิภาพสูง ปลอดภัย และเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจน นอกจากนี้ยังมีบริการติดตามผลหลังการรักษาและให้คำแนะนำในการดูแลตัวเองอย่างครบถ้วน

Pattippa clinic Ayutthaya คลินิกความงาม ดำเนินการโดยแพทย์ตจปฏิบัติการ (ด้านผิวหนัง) ทุกตัวยาและหัตถการ บริการด้วยความใส่ใจ จริงใจ ไม่ยัดเยียดคอร์ส เพราะเราเชื่อว่าอะไรที่ดี ใช้กับตัวเองจนมั่นใจ เราจึงนำมาใช้กับคนไข้ทุกหัตการ
ที่ Pattippa clinic ทำโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์ทั้งหมด