ปรับรูปหน้าให้เท่ากัน ควรทำวิธีไหนดี? เชื่อได้ว่าเป็นปัญหาที่หลาย ๆ คนกำลังประสบอยู่ ซึ่งปัญหารูปหน้าไม่เท่ากันหรือไม่ได้สัดส่วนนั้นเป็นเรื่องที่สามารถพบได้บ่อย โดยปัญหารูปหน้าไม่เท่ากันนั้นสามารถเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุและแสดงออกมาได้หลายรูปแบบโดยที่มีความแตกต่างกันออกไป ดังนั้น การเลือกแนวทางแก้ไขของแต่ละคนจึงอาจแตกต่างกันออกไปได้เช่นเดียวกัน
ปรับรูปหน้าให้เท่ากัน สร้างสมดุลให้สัดส่วนใบหน้า เสริมความมั่นใจให้ตนเองมากขึ้น
“ใบหน้าที่ได้สัดส่วนสมดุล” เป็นองค์ประกอบสำคัญที่ช่วยเสริมความมั่นใจและสร้างความประทับใจในทุกมุมมอง แต่ในความเป็นจริงแล้ว หลายคนอาจพบกับปัญหาใบหน้าที่ไม่สมมาตร ซึ่งสามารถเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ เช่น โครงสร้างกระดูก กล้ามเนื้อ หรือพฤติกรรมในชีวิตประจำวัน แต่ไม่ต้องกังวลไปค่ะ เพราะในบทความนี้ Pattippa Clinic จะพาผู้อ่านไปศึกษาเคล็ดลับและวิธีแก้ไขที่สามารถช่วยปรับรูปหน้าให้สมดุล พร้อมทั้งแนะนำเทคนิคการปรับรูปหน้าที่เหมาะสม เพื่อคืนความมั่นใจและความสวยงามให้กับทุกคนอีกครั้ง ซึ่งจะมีอะไรบ้าง มาติดตามไปพร้อม ๆ กัน
หน้าไม่เท่ากัน คืออะไร ?
“หน้าไม่เท่ากัน” หรือ ความไม่สมดุลของใบหน้า หมายถึง การที่ขนาด รูปทรง หรือสัดส่วนของใบหน้าทั้งสองข้างไม่เท่ากัน ซึ่งอาจสังเกตได้จากลักษณะของกราม แก้ม ดวงตา คิ้ว หรือส่วนอื่น ๆ ที่ดูไม่สมดุลเมื่อเปรียบเทียบระหว่างซีกซ้ายและขวา ความไม่สมมาตรของใบหน้าเป็นเรื่องที่พบได้ทั่วไปในคนส่วนใหญ่และมีสาเหตุมาจากหลายปัจจัย เช่น กรรมพันธุ์ พฤติกรรมในชีวิตประจำวัน เช่น การนอนในท่าเดิมนาน ๆ หรือการเคี้ยวอาหารข้างเดียว รวมถึงอายุที่เพิ่มขึ้นหรือปัจจัยด้านโครงสร้างกระดูกและกล้ามเนื้อก็สามารถส่งผลได้เช่นกัน
ปัญหาหน้าไม่เท่ากัน เกิดจาก….
ปัญหาหน้าไม่เท่ากันสามารถเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ ซึ่งมีทั้งปัจจัยภายในและภายนอกที่ส่งผลต่อโครงสร้างและความสมดุลของใบหน้า โดยสาเหตุหลัก ๆ ที่พบบ่อยมีดังนี้…
- กรรมพันธุ์ – ความไม่สมดุลของใบหน้าอาจมีสาเหตุมาจากพันธุกรรมที่สืบทอดมาจากครอบครัว ซึ่งทำให้โครงสร้างใบหน้าแตกต่างกันไปในแต่ละคน
- การเจริญเติบโตที่ไม่สมบูรณ์ – ในบางกรณี การพัฒนาและเจริญเติบโตของกระดูกและกล้ามเนื้อใบหน้าอาจไม่สมดุลกันตั้งแต่ยังเป็นเด็ก ส่งผลให้เกิดความแตกต่างเมื่อโตขึ้น
- พฤติกรรมในชีวิตประจำวัน – การนอนในท่าเดิมนาน ๆ, การเคี้ยวอาหารข้างเดียว, การยิ้ม, การพูด หรือท่าทางที่ซ้ำ ๆ อาจทำให้กล้ามเนื้อใบหน้าด้านหนึ่งทำงานหนักเกินไป จนเกิดความไม่สมดุล
- อายุที่เพิ่มขึ้น – เมื่ออายุมากขึ้น โครงสร้างของกระดูกใบหน้าและการสูญเสียคอลลาเจนสามารถทำให้ใบหน้าดูหย่อนคล้อยและไม่สมดุล
- การบาดเจ็บหรือการศัลยกรรม – การบาดเจ็บที่ใบหน้า เช่น การหกล้มหรืออุบัติเหตุที่ส่งผลกระทบต่อกระดูกใบหน้า รวมถึงการทำศัลยกรรมบางประเภทที่อาจทำให้ใบหน้าเกิดความไม่สมดุลได้
- ความผิดปกติทางโครงสร้างกระดูก – ภาวะบางอย่าง เช่น ขากรรไกรผิดปกติ หรือโรคเกี่ยวกับโครงสร้างกระดูกใบหน้า อาจทำให้เกิดความไม่สมมาตรของใบหน้าได้
- ปัญหากล้ามเนื้อและประสาทใบหน้า – โรคหรือภาวะที่ส่งผลต่อกล้ามเนื้อหรือเส้นประสาทบริเวณใบหน้า เช่น อัมพาตใบหน้าครึ่งซีก (Bell’s Palsy) ก็สามารถทำให้ใบหน้าดูไม่สมดุล
อย่างไรก็ดี การเข้าใจสาเหตุของความไม่สมดุลนี้ช่วยให้เราสามารถเลือกวิธีแก้ไขหรือปรับปรุงใบหน้าให้สมดุลมากขึ้นได้อย่างเหมาะสมต่อไป
หน้าไม่เท่ากันดูอย่างไร สามารถสังเกตด้วยวิธีไหนได้บ้าง?
การสังเกตว่าใบหน้ามีความไม่เท่ากันหรือไม่ สามารถทำได้โดยสังเกตลักษณะภายนอกและใช้เทคนิคที่ช่วยให้เห็นความแตกต่างของโครงสร้างใบหน้าอย่างชัดเจน ซึ่งวิธีการตรวจสอบนั้นมีดังนี้…
1.การสังเกตด้วยสายตาในกระจก
ยืนตรงหน้ากระจกและมองที่ใบหน้าของคุณอย่างละเอียดโดยแบ่งใบหน้าออกเป็นสองซีก (ซ้ายและขวา) จากจุดศูนย์กลางของใบหน้า เช่น จมูก คุณอาจลองเปรียบเทียบว่าคิ้ว ดวงตา แก้ม ริมฝีปาก หรือกรามทั้งสองข้างมีความสมดุลหรือไม่
2.การถ่ายรูปและเปรียบเทียบ
ถ่ายรูปใบหน้าตรงและใช้แอปพลิเคชันหรือซอฟต์แวร์ที่สามารถแสดงภาพใบหน้าในลักษณะสมมาตรได้ เช่น การแยกครึ่งหน้าและสร้างภาพซีกซ้ายหรือขวาทั้งหมดจากครึ่งเดียว เพื่อเปรียบเทียบความแตกต่างอย่างชัดเจน
3.การวัดสัดส่วน
อาจลองใช้ไม้บรรทัดหรือเครื่องมือวัดวางตรงกลางใบหน้า จากนั้นสังเกตว่าสัดส่วนของใบหน้าทั้งสองข้างมีความเท่ากันหรือมีจุดที่เห็นได้ชัดเจนว่าไม่สมดุล เช่น ระยะห่างระหว่างตากับคิ้ว หรือความสูงของแก้ม
4.การเปรียบเทียบรูปใบหน้าของตนเองในอดีต
ดูภาพถ่ายในอดีตแล้วเปรียบเทียบกับใบหน้าปัจจุบัน เพื่อดูการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นความสมดุลของโครงสร้างหรือรูปหน้าที่เปลี่ยนไปจากพฤติกรรมหรือปัจจัยอื่น ๆ
5.การขยับกล้ามเนื้อใบหน้า
ลองยิ้ม ยกคิ้ว หรือขยับใบหน้าในท่าต่าง ๆ แล้วสังเกตว่ากล้ามเนื้อใบหน้าทั้งสองข้างเคลื่อนไหวเหมือนกันหรือไม่ หากด้านใดด้านหนึ่งเคลื่อนไหวได้ยากหรือไม่สมดุล อาจเป็นสัญญาณของความไม่เท่ากัน
6.การปรึกษาแพทย์
หากต้องการตรวจสอบอย่างละเอียดและแม่นยำ ควรปรึกษาแพทย์ เช่น แพทย์ผิวหนังหรือนักศัลยกรรมตกแต่งที่สามารถประเมินและแนะนำวิธีการตรวจสอบความไม่สมดุลของใบหน้าได้อย่างละเอียด
ทั้งนี้ การตรวจสอบเบื้องต้นเหล่านี้ถือเป็นเรื่องจำเป็น เพราะจะสามารถช่วยให้ทุกคนสามารถสังเกตถึงปัญหาความไม่สมดุลและพิจารณาทางเลือกในการแก้ไขหรือปรับปรุงได้อย่างเหมาะสมอีกด้วยนั่นเอง
หน้าไม่เท่ากันปรับอย่างไร เคล็ดลับปรับรูปหน้าให้ได้สัดส่วนที่ควรรู้ มีอะไรบ้าง?
หากใบหน้าของเรามีความไม่สมดุล หรือไม่เท่ากัน สามารถปรับได้หลายวิธี ขึ้นอยู่กับลักษณะปัญหาของแต่ละบุคคล ตัวเลือกที่สามารถพิจารณาได้มีดังนี้..
การดูแลรักษาความสมดุลของกล้ามเนื้อและผิวหนัง
- การนวดหน้า: นวดหน้าสามารถช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดและลดความตึงเครียดในบริเวณต่างๆ ของใบหน้า
- การใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว: การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยกระชับผิวสามารถช่วยทำให้ใบหน้าดูสมดุลและมีความยืดหยุ่นมากขึ้น
การปรับรูปหน้าโดยการทำศัลยกรรม
- การผ่าตัดยกคิ้ว: หากคิ้วไม่เท่ากัน การยกคิ้วสามารถช่วยปรับสมดุลให้คิ้วอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม
- การเสริมคาง: ถ้าคางเบี้ยวหรือไม่สมดุล การเสริมคางสามารถช่วยปรับรูปหน้าให้สวยงามขึ้น
- การผ่าตัดเสริมจมูก: หากจมูกไม่เท่ากัน การเสริมจมูกอาจช่วยให้หน้าได้สัดส่วนที่ดีขึ้น
การปรับรูปหน้าโดยการใช้หัตถการด้านความงาม
- โปรแกรมฟิลเลอร์ (Filler): การฉีดโปรแกรมฟิลเลอร์ในบริเวณที่มีความบกพร่อง เช่น แก้ม หรือขมับ สามารถช่วยปรับรูปหน้าให้สมดุล
- โปรแกรมโบท็อกซ์ (Botox): การฉีดโปรแกรมโบท็อกซ์เพื่อปรับกล้ามเนื้อในบางส่วนของใบหน้า เช่น การยกคิ้วหรือลดการหดตัวของกล้ามเนื้อที่ทำให้ใบหน้าไม่เท่ากัน
การปรับรูปหน้าด้วยการรักษาด้วยโปรแกรมเลเซอร์
- โปรแกรม Endolift: การใช้โปรแกรมเลเซอร์ Endolift ซึ่งเป็นการยกกระชับผิวหน้าเพื่อปรับรูปหน้าและลดความหย่อนคล้อย
ทั้งนี้ สำหรับผู้อ่านท่านใดที่กำลังประสบปัญหารูปหน้าไม่เท่ากันอยู่ ก็สามารถปรึกษาแพทย์เพื่อเลือกวิธีที่เหมาะสมกับลักษณะและความต้องการของแต่ละคนด้วย
ปรับรูปหน้า โดยไม่ต้องศัลยกรรม ด้วยหัตถการปรับรูปหน้า ที่ไม่ต้องผ่าตัด จาก Pattippa Clinic
สำหรับนวัตกรรมสำหรับโปรแกรมยกกระชับเพื่อปรับรูปหน้า ที่ Pattippa Clinicจะมีรายละเอียดที่แตกต่างกันออกไป ดังต่อไปนี้…
1.โปรแกรม โบท็อกซ์ (BOTOX)
โปรแกรมโบท็อกซ์ (BOTOX) คือโปรตีนชนิดหนึ่งที่สกัดจากแบคทีเรีย Clostridium botulinum ซึ่งมีคุณสมบัติในการหยุดการหดตัวของกล้ามเนื้อชั่วคราว จึงสามารถลดเลือนริ้วรอยบนใบหน้าได้ โดยเฉพาะริ้วรอยที่เกิดจากการเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อ เช่น ริ้วรอยหน้าผาก ริ้วรอยระหว่างคิ้ว และริ้วรอยบริเวณหางตา ริ้วรอยใต้ตา นอกจากนี้ โปรแกรมฉีดโบท็อกซ์ (BOTOX) ยังใช้ในการปรับรูปหน้าให้เรียวขึ้น ช่วยกระชับผิว กระชับรูขุมขน และลดเหงื่อ ได้อีกด้วย
2.โปรแกรมฟิลเลอร์ (Filler)
การฉีดฟิลเลอร์สามารถเพิ่มปริมาตรและความคมชัดให้กับบริเวณขอบกรามและคาง ทำให้รูปหน้าดูมีมิติและชัดเจนมากขึ้น เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหากรอบหน้าไม่ชัด หรือรูปหน้าดูอ่อนคล้อยและช่วยยกกระชับผิวบริเวณกรอบหน้าให้ดูเต่งตึงขึ้น โดยการเติมเต็มเนื้อเยื่อใต้ผิว ทำให้เส้นกรอบหน้าดูคมและเด่นชัดขึ้น ทั้งนี้ การฉีดฟิลเลอร์เพื่อปรับกรอบหน้าเป็นการแก้ไขที่ไม่ต้องผ่าตัดและเห็นผลลัพธ์ได้ ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญก่อนรับบริการเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่เหมาะสมกับรูปหน้าของแต่ละคนอีกด้วย
3.โปรแกรม Ulthera
เป็นวิธียกกระชับโดยใช้คลื่นเสียงความถี่สูง และมีความเฉพาะเจาะจง (Focused Ultrasound) ยิงลงไปใต้ชั้นผิวเพื่อให้ผิวเกิดการยกกระชับใบหน้าขึ้น โดยจะ focus ให้เกิดจุดความร้อนเล็ก ๆ เรียงกันเป็นเส้นจุดไข่ปลาตรงใต้ผิว ซึ่งจะทำให้เกิดการหดของเนื้อเยื่อตามทิศทางของคลื่นความถี่ดังกล่าวซึ่งมีความแม่นยำเป็นอย่างมากอีกหนึ่งนวัตกรรมเลยก็ว่าได้ ทั้งนี้ จุดเด่น เหมาะกับคนที่มีความหย่อนคล้อย หน้าคล้อย อยากให้ใบหน้ายก ดังนั้น ในการรักษาจะเน้นในการยกกระชับผิวใบหน้าเป็นหลัก ซึ่งเรียกได้ว่า Program Ulthera เป็นหัตถการ ที่นึกถึงเป็นอันดับแรก ๆ ของทางคลินิกของเราเลยทีเดียว
4.โปรแกรม Ultraformer
เทคโนโลยี Ultraformer นั้น จะแตกต่างจาก Program Ulthera จะได้ช็อตเยอะกว่า ราคาย่อมเยากว่า ทั้งนี้ ยิงได้กระจายได้มากกว่า หลายตำแหน่ง โดย Program Ultraformer เหมาะกับคนที่อายุ 20-30 ต้น ๆ ที่ความหย่อนคล้อยหรือริ้วรอยอาจจะยังไม่ลึกมากนั่นเอง ทั้งนี้ ยังสามารถสลายไขมัน กระตุ้นคอลลาเจน ยกผิวหย่อนคล้อย ยกใบหน้าให้กระชับ ลดและสลายไขมันบนใบหน้าให้ไม่ว่าจะหมุนองศาไหนก็สวย
5.โปรแกรม Thermage FLX
เป็นเทคนิคที่ช่วยสลายไขมัน ทำให้ผิวของเราแน่นกระชับขึ้นและยังช่วยปรับสภาพผิว เพิ่มผิวเด็ก (Skin Quality) ทำให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ขึ้นโดยไม่ต้องผ่าตัด โดยใช้พลังงานคลื่นวิทยุความถี่สูงซึ่งเป็นก้อนพลังงานความร้อนลงในชั้นผิว ซึ่งเหมาะสำหรับคนที่มีไขมันบนใบหน้า โดยเฉพาะที่แก้ม และเหนียง ผิวหน้าหย่อนคล้อย และมีริ้วรอยมาก โดยหลักการทำงานของโปรแกรม Themrage FLX นั้นจะเป็นกระตุ้นการกระชับ ปล่อยพลังงานเป็น Volumetic ซึ่งจะทำให้ลดแก้มกระชับได้ดี ทั้งนี้ยังช่วย tightening ลดแก้ม เหนียงใต้คาง จะช่วยแก้ไขผิวหลวม ผิวเด้งแน่นขึ้น ได้เพิ่มเติมเรื่องงานผิวให้ดูสุขภาพดีขึ้นได้อีกด้วย
อย่างไรก็ตาม จากที่ได้กล่าวมาทั้งหมด ทุกคนคงเห็นแล้วว่าโปรแกรมยกกระชับและปรับรูปหน้าจากทาง Pattippa Clinic ของเรานั้นมีความหลากหลาย ซึ่งเครื่องไหนจะดีที่สุดนั้นก็จะขึ้นอยู่กับปัญหาผิวของแต่ละคนนั่นเอง ทั้งนี้ ขอเน้นย้ำอีกครั้งว่า ปัญหารูปหน้า เป็นหนึ่งในปัญหาที่ทำให้หลาย ๆ คนรู้สึกกังวลใจไม่น้อย แต่ด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่ที่ช่วยยกกระชับหน้าได้อย่างตรงสาเหตุ ก็สามารถช่วยให้ทุก ๆ คนมีใบหน้าที่ได้สัดส่วนและสมดุลมากขึ้น
บริการปรับรูปหน้าอื่น ๆ >> บริการปรับรูปหน้า Pattippa Clinic
โปรแกรมปรับรูปหน้า ที่ไหนดี?
Pattippa clinic Ayutthaya คลินิกความงาม ดำเนินการโดยแพทย์ตจปฏิบัติการ (ด้านผิวหนัง) ทุกตัวยาและหัตถการ บริการด้วยความใส่ใจ จริงใจ ไม่ยัดเยียดคอร์ส เพราะเราเชื่อว่าอะไรที่ดี ใช้กับตัวเองจนมั่นใจ เราจึงนำมาใช้กับคนไข้ทุกหัตการ ที่ Pattippa clinic ทำโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์ทั้งหมด