เหนียงใต้คาง ลดยังไง
ต้องลดด้วยวิธีไหนจึงจะเห็นผลได้ง่ายที่สุด?
เป็นเรื่องปกติที่เมื่อพบว่าเหนียงใต้คางเริ่มเด่นชัดขึ้น หลายคนอาจรู้สึกไม่มั่นใจ เพราะเหนียงเป็นสิ่งที่ทำให้ใบหน้าดูอวบขึ้นและขาดความคมชัด แม้ว่าในบางกรณีเหนียงอาจเกิดจากพันธุกรรมหรือโครงสร้างกระดูกใบหน้า แต่ในหลาย ๆ คน สาเหตุหลักมักมาจากไขมันสะสมและความหย่อนคล้อยของผิว ซึ่งสามารถแก้ไขได้ด้วยวิธีที่เหมาะสม
แต่การลดเหนียงให้เห็นผลชัดเจนและรวดเร็วนั้นควรทำอย่างไร? ควรเลือกออกกำลังกาย ควบคุมอาหาร หรือพึ่งเทคโนโลยีทางการแพทย์เพื่อช่วยจัดการปัญหานี้? ในบทความนี้ Patiippa Clinic จะพาทุกคนมารู้จักกับวิธีลดเหนียงใต้คางที่ได้ผล และแนะนำแนวทางที่เหมาะสมกับแต่ละสาเหตุ เพื่อให้ผู้ประสบปัญหาสามารถทราบแนวทางในการปรับรูปหน้าให้ดูเรียวกระชับและมีกรอบหน้าที่ชัดได้มากขึ้น
เหนียง คืออะไร ลักษณะของเหนียงเป็นอย่างไร?
เหนียง คือ บริเวณเนื้อใต้คางที่มีลักษณะหย่อนคล้อย หรือที่หลายคนรู้จักกันว่า “คางสองชั้น” (Double Chin) โดยเหนียงมักเกิดจากการสะสมของไขมันใต้ชั้นผิวหนัง หรือจากความหย่อนคล้อยของผิวและเนื้อเยื่อในบริเวณนั้น ลักษณะของเหนียงจึงมีลักษณะคล้ายเนื้อส่วนเกินที่ห้อยลงมาบริเวณใต้คาง ทำให้เห็นเป็นคางซ้อนกันและส่งผลต่อความเรียบเนียนของแนวกรอบหน้า
เหนียงสามารถเกิดขึ้นได้จากหลายปัจจัย เช่น การเพิ่มขึ้นของน้ำหนัก อายุที่มากขึ้นทำให้ผิวสูญเสียความยืดหยุ่น หรือแม้แต่พันธุกรรมที่มีผลต่อการสะสมของไขมันบริเวณนี้ สำหรับหลายคน การมีเหนียงอาจเป็นสิ่งที่บั่นทอนความมั่นใจ เพราะทำให้ใบหน้าดูหย่อนคล้อยและไม่คมชัดเท่าที่ควร
เหนียงเกิดจากอะไร?
การสะสมของไขมัน
เมื่อร่างกายสะสมไขมันมากขึ้น ไขมันส่วนหนึ่งมักจะสะสมอยู่บริเวณใต้คางและกรอบหน้า ส่งผลให้เกิดคางสองชั้นหรือเหนียงที่เห็นได้ชัดเจน
ความหย่อนคล้อยของผิว
เมื่ออายุมากขึ้น ผิวหนังจะสูญเสียคอลลาเจนและอีลาสติน ซึ่งเป็นส่วนที่ช่วยรักษาความกระชับของผิว ทำให้ผิวใต้คางหย่อนคล้อย เกิดเป็นเหนียง
พันธุกรรม
ลักษณะทางพันธุกรรมบางอย่างอาจทำให้บางคนมีแนวโน้มที่จะมีเหนียงได้ง่ายกว่า เช่น ลักษณะกรอบหน้าหรือการสะสมของไขมันใต้ผิว
การเปลี่ยนแปลงน้ำหนัก
การเปลี่ยนแปลงน้ำหนักตัวอย่างรวดเร็ว เช่น การเพิ่มหรือลดน้ำหนัก อาจทำให้เกิดการสะสมของไขมันหรือการยืดหดของผิวหนังบริเวณใต้คาง
ท่าทางการใช้ชีวิตประจำวัน
การนั่งหรือยืนในท่าที่ไม่ถูกต้อง เช่น การก้มหน้าเป็นเวลานาน อาจส่งผลต่อความยืดหยุ่นของกล้ามเนื้อและผิวบริเวณใต้คาง ทำให้เกิดเหนียงได้

รวมลิสต์วิธีลดเหนียงใต้คาง มีวิธีไหนบ้าง มาดูกัน
- ควบคุมอาหาร :
ลดอาหารไขมันสูง น้ำตาล และคาร์โบไฮเดรตส่วนเกิน เน้นอาหารที่มีโปรตีนสูงและไฟเบอร์เพื่อช่วยลดไขมันสะสม - ออกกำลังกายบริเวณคอและใบหน้า :
เช่น ท่ากลืนอากาศ เงยหน้าแล้วขยับกราม หรือบริหารกล้ามเนื้อคอ (Neck Exercises) ซึ่งช่วยให้กล้ามเนื้อกระชับขึ้น - ลดน้ำหนักโดยรวม :
หากเหนียงเกิดจากไขมันส่วนเกิน การลดน้ำหนักโดยรวมด้วยคาร์ดิโอและเวทเทรนนิ่งจะช่วยลดไขมันใต้คางได้
- โปรแกรม HIFU (High-Intensity Focused Ultrasound) :
เป็นการใช้คลื่นอัลตราซาวด์ความเข้มข้นสูงเพื่อยกกระชับผิวและลดไขมันใต้คางอย่างมีประสิทธิภาพ - โปรแกรม RF (Radio Frequency) :
ใช้คลื่นความถี่วิทยุกระตุ้นคอลลาเจนและช่วยกระชับผิวบริเวณเหนียง - โปรแกรม ฉีดสลายไขมัน (Fat Dissolving Injection) : เช่น โปรแกรมเมโสแฟต ช่วยสลายไขมันส่วนเกิน แต่ต้องทำหลายครั้งเพื่อเห็นผล
- โปรแกรม Endolift : เป็นหัตถการที่ ใช้เลเซอร์เพื่อกระชับผิวและสลายไขมันในชั้นลึก เหมาะสำหรับผู้ที่มีไขมันสะสมร่วมกับผิวหย่อนคล้อย
- โปรแกรม Liposuction (ดูดไขมันใต้คาง) : เหมาะสำหรับคนที่มีไขมันส่วนเกินมากและต้องการผลลัพธ์ชัดเจนในครั้งเดียว
- การผ่าตัดยกกระชับคอ (Neck Lift Surgery) :
เหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวหย่อนคล้อยมากและต้องการผลลัพธ์ถาวร - การเสริมคาง (Chin Augmentation) :
ในบางกรณีโครงสร้างคางเล็กทำให้ดูเหมือนมีเหนียง การเสริมคางช่วยให้กรอบหน้าชัดขึ้น
อยากลดเหนียง มีกรอบหน้าชัด โดยไม่ศัลยกรรม
ด้วยหัตถการต่าง ๆ ที่ Pattippa Clinic มีวิธีไหนบ้าง?
อย่างไรก็ตาม จากที่ได้กล่าวมาทั้งหมด ทุกคนคงเห็นแล้วว่าโปรแกรมปรับรูปหน้าจากทาง Pattippa Clinic ของเรานั้นมีความหลากหลาย ซึ่งเครื่องไหนจะเหมาะที่สุดนั้นก็จะขึ้นอยู่กับปัญหารูปหน้าของแต่ละคนนั่นเอง ทั้งนี้ ขอเน้นย้ำอีกครั้งว่า ปัญหารูปหน้า เป็นหนึ่งในปัญหาที่ทำให้หลาย ๆ คนรู้สึกกังวลใจไม่น้อย แต่ด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่ที่สามารถช่วยยกกระชับหน้าและแก้ไขปัญหาได้ตรงสาเหตุ ก็สามารถช่วยให้ทุก ๆ คนมีกรอบหน้าที่ชัดเจน
บริการปรับรูปหน้าอื่น ๆ >> บริการปรับรูปหน้า Pattippa Clinic


( รีวิว ยกกระชับใบหน้า จาก Pattippa Clinic )