“ร้อยไหมกระชับหน้า” เทคโนโลยียกกระชับที่เป็นที่รู้จักและได้รับความนิยมมาอย่างยาวนาน ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีว่า คนเราทุกคนย่อมต้องการให้ตัวเองดูดีและอ่อนเยาว์อยู่เสมอ จึงทำให้เทคโนโลยีด้านเสริมความงามพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งหนึ่งในเทคนิคเหล่านั้นที่กำลังเป็นที่นิยมในปัจจุบัน ก็คือ เทคนิคการร้อยไหมด้วยไหมละลาย ดังนั้นเราจึงควรรู้ถึงข้อเท็จจริง ข้อดีและข้อเสียของเทคนิคดังกล่าวก่อนที่จะตัดสินใจเลือกรับบริการ ซึ่ง Pattippa Clinic ก็ได้รวบรวมข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับการร้อยไหมมาฝากกัน
สามารถกดเลือกอ่านเนื้อหาที่สนใจ
ร้อยไหมกระชับหน้า คืออะไร ช่วยยกกระชับและปรับรูปหน้าได้จริงไหม?
เมื่ออายุมากขึ้น ปัญหาใบหน้าหย่อนคล้อยดูไม่อ่อนเยาว์เหมือนก่อนมักเป็นสิ่งรบกวนจิตใจใครหลายคน โชคดีว่า ในปัจจุบันปัญหาริ้วรอยและความหย่อนคล้อยนั้นมีทางแก้ไขได้ ด้วยศาสตร์ในทางการแพทย์ที่สามารถทำการยกกระชับใบหน้าด้วย “การร้อยไหม” ซึ่งเป็นหัตถการที่ไม่มีการผ่าตัด ใช้เวลาในการทำไม่นาน ให้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ และเห็นการเปลี่ยนแปลงได้ในทันที
การร้อยไหมคืออะไร?
การร้อยไหมเป็นเทคนิคการยกกระชับใบหน้า สำหรับผู้ที่มีปัญหาหย่อนคล้อย หรือผู้ที่ต้องการปรับรูปหน้าให้เข้ารูปมากขึ้น โดยการใส่เส้นไหมบริเวณใบหน้าเพื่อยึดพยุงตัวโครงสร้างของใบหน้าเอาไว้ ที่สำคัญการทำนั้นไม่ต้องผ่าตัด ใช้เวลาไม่นาน ให้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ ซึ่งการร้อยไหมนอกจากช่วยให้ใบหน้ากระชับแล้ว ยังมีส่วนช่วยสร้างคอลลาเจนใหม่ ทำให้ริ้วรอยลดลง ผิวพรรณสดใสขึ้น และกระชับรูขุมขนได้อีกด้วย
ร้อยไหมช่วยแก้ไขปัญหาอะไรได้บ้าง?
จุดประสงค์หลักของการร้อยไหมคือการยกกระชับผิวบริเวณต่างๆ แต่ในบางคนอาจมีริ้วรอยที่ดูลดเลือนลงด้วยจากผลของการกระตุ้นสร้างคอลลาเจน
คนไข้อาจสังเกตเห็นผลลัพธ์ได้เล็กน้อยทันทีหลังจากทำเสร็จ จากนั้นผลลัพธ์จะค่อยๆ ชัดเจนขึ้นใน 3-6 เดือน และผลการยกกระชับอาจคงอยู่ได้นาน 1-3 ปี ขึ้นอยู่กับการดูแลรักษา เช่น พฤติกรรมการสูบบุหรี่ การใช้ชีวิตประจำวัน
การร้อยไหมสามารถทำได้หลายส่วน ดังนี้…
- ยกกระชับแนวกราม ขากรรไกร
- ยกกระชับแนวคิ้ว
- ยกกระชับพื้นที่ใต้ดวงตา
- ยกกระชับบริเวณหน้าผาก
- ยกกระชับแก้ม
- ยกกระชับบริเวณหน้าอก (สำหรับผู้หญิงที่ลดน้ำหนักหรือเพิ่งคลอดบุตร)
อย่างไรก็ตาม การร้อยไหมเหมาะสำหรับผู้ที่มีอายุระหว่าง 30 ปลาย ๆ ถึง 50 ต้น ๆ หรือผู้ที่มีผิวหน้าหย่อนคล้อยเล็กน้อยถึงปานกลางเท่านั้น เพราะการร้อยไหมเป็นการยกกระชับผิวที่หย่อนคล้อย แต่ไม่ได้มีการนำผิวที่หย่อนคล้อยออกไปเหมือนการผ่าตัดยกกระชับ ทำให้ไม่สามารถยกกระชับผิวของคนที่หย่อนคล้อยมาก ๆ ได้
ใครบ้างที่เหมาะกับการร้อยไหม?
สำหรับหัตถการนี้สามารถตอบโจทย์กับคนไข้หลายกลุ่มด้วยกัน เช่น…
- ผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 30-50 ปี ที่มีปัญหาใบหน้าหย่อนคล้อย
- ผู้ที่ต้องการยกกระชับผิว ปรับรูปหน้าแบบไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น
- ผู้ที่ต้องการแก้ไขปัญหารูปหน้าให้ได้สัดส่วนมากขึ้น
ซึ่งนี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งของกลุ่มคนไข้ที่เหมาะกับการร้อยไหมเท่านั้น โดยสำหรับกลุ่มอื่น ๆ ที่สนใจสามารถเข้ารับคำปรึกษาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญได้
ไหมที่นำมาใช้ มีกี่ชนิด อะไรบ้าง?
จากที่กล่าวไปว่า การร้อยไหม คือ เทคนิคที่นำมาใช้ช่วยยกกระชับ โดยชนิดของเส้นไหมที่นิยมใช้ มี 3 แบบ
- เส้นไหมเรียบ (Mono threads) เป็นเส้นเรียบ ไม่มีเงี่ยงหรือปุ่มเหรือเกลียว ส่วนใหญ่จะใช้ร้อยไหมชนิดนี้บริเวณคอ หน้าฝาก และใต้ตา เส้นไหมชนิดนี้จะช่วยให้ผิวหนังเต่งตึงแต่ไม่ได้ช่วยยกชั้นผิวหนัง
- เส้นไหมเกลียว (Screw threads) เป็นเส้นไหมเส้นเดียวหรือสองเส้นเกลียวเข้าด้วยกัน เส้นไหมชนิดนี้มีประโยชน์ช่วยเพิ่มปริมาตรบริเวณผิวหนังที่ยุบตัวหรือเป็นแอ่ง เส้นไหมเกลียวจะให้ผลแข็งแรงกว่าไหมเส้นเรียบ ส่วนใหญ่ไหมเกลียวเหมาะกับการยกชั้นผิวหนังที่หย่อนยาน
- เส้นไหมที่มีเงี่ยง (Cog threads) เป็นเส้นไหมเส้นเดียวแต่มีเงี่ยงตลอดแนวไหม เพื่อทำหน้าที่ยึดเกาะด้านในชั้นผิวหนัง เงี่ยงมีประโยชน์ทำหน้าที่คล้ายโครงสร้างที่จะช่วยยกเนื้อเยื่อหรือผิวหนังที่หย่อนยาน คอลลาเจนจะถูกกระตุ้นให้มีการสร้างขึ้นใหม่รอบเส้นไหมและบริเวณเงี่ยง เส้นไหมชนิดนี้เหมาะกับการยกกระชับบริเวณคาง ปรับรูปหน้าให้เรียว
ซึ่งไหมแต่ละชนิดจะมีคุณสมบัติของการนำมาใช้ที่แตกต่างกันออกไป ฉะนั้น การเลือกใช้ไหมก็จะขึ้นอยู่กับลักษณะของปัญหาของคนไข้แต่ละเคสด้วยว่าเหมาะกับไหมชนิดใด
ขั้นตอนการร้อยไหม
ขั้นตอนการร้อยไหมอาจมีความแตกต่างกันไปตามตำแหน่งที่ทำ แต่ขั้นตอนต่อไปนี้เป็นขั้นตอนพื้นฐานที่ผู้ให้บริการมักปฎิบัติไปในทิศทางเดียวกัน
- ผู้ให้บริการจะให้คุณนอนราบ จากนั้นจะใช้แอลกอฮอล์เช็ดทำความสะอาดทั่วบริเวณ ตามด้วยยาระงับความรู้สึก
- เมื่อยาระงับความรู้สึกออกฤทธิ์ ผู้ให้บริการจะใช้เข็มสอดไหมเข้าไปใต้ผิวหนัง ขั้นตอนนี้อาจใช้เวลานาน 30-45 นาที
- หลังจากที่ไหมสอดเข้าไปแล้ว อาจรู้สึกว่าผิวหน้ากำลังถูกยกตามทิศทางที่ร้อยไหม และอาจรู้สึกแรงกดเล็กน้อย
- ผู้ให้บริการจะนำเข็มออก เป็นอันเสร็จขั้นตอนการร้อยไหม
ซึ่งนี่เป็นเพียงขั้นตอนเบื้องต้นเท่านั้น โดยแต่ละคลินิกหรือสถานให้บริการอาจมีขั้นตอนที่มากหรือน้อยกว่านี้ก็ได้เช่นกัน ซึ่งอาจขึ้นอยู่กับเทคนิคของคุณหมอแต่ละท่านด้วยนั่นเอง
ก่อนและหลังร้อยไหม ควรเตรียมตัวอย่างไร?
สำหรับแนวทางการเตรียมตัวและการดูแลตนเองหลังเข้ารับบริการร้อยไหม คนไข้สามารถทำตามขั้นตอนต่าง ๆ ได้ ดังนี้…
ก่อนการร้อยไหม
- ปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินโครงสร้างใบหน้า เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดี และตรงกับความต้องการของคนไข้มากที่สุด
- งดทานวิตามินและอาหารเสริมก่อนทำการร้อยไหม 1 สัปดาห์ เพราะอาจจะมีผลให้เลือดออกง่ายและเกิดการฟกช้ำง่ายหลังทำง่ายขึ้น
- ควรงดดื่มแอลกอฮอล์ 24 ชั่วโมง
หลังการร้อยไหม
- ไม่ควรแต่งหน้าหลังทำ 24 ชั่วโมง เพื่อป้องกันการติดเชื้อ
- ไม่ควรทำหัตถการต่างๆ บนใบหน้า 2 สัปดาห์
- ไม่ควรออกกำลังกายหนักๆ เพราะมีผลต่อเรื่องเลือดออกและการฟกช้ำ
- ไม่ควรอ้าปากกว้าง หรือเคี้ยวของที่เหนียวและแข็งมากเกินไป เพราะจะทำให้กระทบกระเทือนหรือเจ็บระบมได้
ทั้งนี้ ไม่ว่าจะเป็นการเตรียมตัวก่อนเข้ารับบริการหรือการดูแลตนเองหลังเข้ารับบริการก็สำคัญด้วยกันทั้งสิ้น คนไข้ทุกคนควรใส่ใจในทุก ๆ ขั้นตอนเพื่อความปลอดภัยและผลลัพธ์ตามที่คาดหวังด้วยนั่นเอง
โปรแกรมร้อยไหม Facelift ดึงยกกระชับใบหน้า จาก Pattippa Clinic
ที่ Pattippa Clinic เราคัดเลือกไหมเกรดพรีเมี่ยมซึ่งเป็นไหมเงี่ยง ที่เป็น 1 ใน 3 แบรนด์ที่ผ่านอย. มีคุณสมบัติการยกกระชับอย่างมีประสิทธิภาพ แกนไหมแข็งแรง แบบ 360 องศา ดึงได้มากกว่าไหมปกติ ถึง 4 เท่า และเห็นผลทันที ทั้งนี้ ไม่ต้องผ่าตัด จึงไม่ต้องพักฟื้นให้เสียเวลาอีกด้วย บอกเลยว่าคนไข้ทุกคนจะได้รับผลลัพธ์ตามที่คาดหวังไว้อย่างแน่นอน
FAQ คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการร้อยไหม
ผลลัพธ์ของการร้อยไหมจะเห็นผลได้ชัดเจนทันทีประมาณ 50 เปอร์เซ็นต์ และจะเห็นชัดขึ้นเรื่อยๆ จนถึงระยะเวลาประมาณ 6 เดือน ไหมจะทำหน้าที่ได้มากขึ้นเรื่อยๆ และยังช่วยในเรื่องของการกระตุ้นคอลลาเจน ทำให้ผิวเรียบเนียน รูขุมขนเล็กลง ผิวกระจ่างใส
โดยปกติแล้วจะอยู่ได้นาน 1 ปี ถึง 1 ปีครึ่ง ซึ่งจะขึ้นอยู่กับการดูแลตนเองของคนไข้ด้วย
โดยสรุปแล้ว การร้อยไหมเป็นทางเลือกในการยกกระชับผิวหน้าสำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อยเล็กน้อยถึงปานกลาง แต่ไม่ต้องการผ่าตัด มีความปลอดภัยสูง ไม่กระทบกับชีวิตประจำวัน หากดูแลรักษาผิวหน้าอย่างดีก็จะช่วยให้ผลลัพธ์คงอยู่ได้นาน
หลังร้อยไหมควรงดการออกกำลังกายหนัก ๆ ประมาณ 3-4 วันเพื่อป้องกันการสั่นสะเทือนที่อาจส่งผลให้เนื้อเยื่อบริเวณหน้าบอบช้ำ อาจก่อให้เกิดการบวมและต้องใช้เวลาพักฟื้นนานยิ่งขึ้น
ควรหลีกเลี่ยงกิจจกรมกด บีบ แกะ เกา หรือนวดบริเวณใบหน้า โดบเฉพาะแนวร้อยไหมเป็นเวลา 2 สัปดาห์ เพื่อป้องกันไม่ให้เส้นไหมที่ร้อยไว้ผิดรูป และยังเสี่ยงต่อการติดเชื้ออีกด้วย
Pattippa clinic Ayutthaya คลินิกความงาม ดำเนินการโดยแพทย์ตจปฏิบัติการ (ด้านผิวหนัง) ทุกตัวยาและหัตถการ บริการด้วยความใส่ใจ จริงใจ ไม่ยัดเยียดคอร์ส เพราะเราเชื่อว่าอะไรที่ดี ใช้กับตัวเองจนมั่นใจ เราจึงนำมาใช้กับคนไข้ทุกหัตการ ที่ Pattippa clinic ทำโดยแพทย์ที่มีประสบการณ์ทั้งหมด