เทอร์มาจ กับ อัลเทอร่า ต่างกันยังไง? เชื่อได้ว่าเป็นคำถามที่หลาย ๆ คนต้องสงสัยกันอยู่อย่างแน่นอน เพราะเป็นที่ทราบกันดีว่า เทคโนโลยียกกระชับใบหน้านั้นมีอยู่หลายรูปแบบด้วยกัน ซึ่ง โปรแกรม Thermage และ โปรแกรม Ulthera ก็ถือเป็นเป็นสองตัวเลือกยอดนิยมที่หลายคนมักเลือกใช้เพื่อฟื้นฟูและยกกระชับผิวหน้าโดยไม่ต้องผ่าตัด
อย่างไรก็ตาม ทั้งสองโปรแกรมนี้มีหลักการทำงานที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน และผลลัพธ์ที่ได้ก็ไม่เหมือนกัน หากคุณกำลังมองหาวิธีที่จะทำให้ใบหน้าเรียวตึงและกระชับขึ้นโดยไม่ต้องเสียเวลาฟื้นตัว เรามาดูกันว่า เทอร์มาจ และ อัลเทอร่า ต่างกันอย่างไร และจะเลือกตัวไหนดีที่เหมาะสมกับแต่ละคนมากที่สุด?
เทอร์มาจ กับ อัลเทอร่า ต่างกันยังไง
เมื่อพูดถึงการยกกระชับผิวหน้า เทคโนโลยีที่ได้รับความนิยมและเป็นที่รู้จักกันดีคงหนีไม่พ้น โปรแกรม Thermage และ โปรแกรม Ulthera ซึ่งทั้งสองตัวเลือกนี้มีจุดเด่นและประสิทธิภาพที่แตกต่างกันออกไป หลายคนอาจเคยได้ยินถึงผลลัพธ์ที่ช่วยให้ผิวกระชับ ดูอ่อนเยาว์ขึ้น แต่คำถามที่สำคัญคือ ควรเลือกทำตัวไหนก่อนเพื่อให้เห็นผลลัพธ์ที่ดีที่สุด? หรือสามารถทำควบคู่กันได้ไหม? วันนี้ Pattippa Clinic พร้อมให้คำแนะนำและคำตอบเพื่อช่วยให้ทุกคนตัดสินใจได้อย่างมั่นใจมากขึ้น

ทำความรู้จักกันก่อน โปรแกรม Thermage
และ โปรแกรม Ulthera คืออะไร และต่างกันยังไง?
ในปัจจุบัน “การดูแลผิวพรรณให้กระชับและอ่อนเยาว์โดยไม่ต้องผ่าตัด” กลายเป็นทางเลือกยอดนิยมสำหรับหลายคน เทคโนโลยีอย่าง Thermage และ Ulthera จึงถูกพูดถึงอย่างกว้างขวาง เนื่องจากทั้งสองวิธีนี้มีประสิทธิภาพสูงในการช่วยยกกระชับผิว
แต่ด้วยเทคโนโลยีและผลลัพธ์ที่แตกต่างกัน จึงอาจทำให้หลายคนสงสัยว่าเทคโนโลยีทั้งสองนี้เหมาะกับปัญหาแบบไหน และควรเลือกทำอะไรดี บทความนี้จะพาคุณไปทำความรู้จัก Thermage และ Ulthera อย่างละเอียด พร้อมเปรียบเทียบข้อแตกต่างเพื่อช่วยให้คุณตัดสินใจได้ง่ายขึ้น

- ใช้พลังงาน คลื่นวิทยุความถี่สูง (Radiofrequency)
- ส่งพลังงานลึกลงไปในชั้นผิวหนังแท้ (Dermis) และชั้นไขมันใต้ผิว
- กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ และทำให้เส้นใยคอลลาเจนที่หย่อนคล้อยหดตัว
เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อยโดยรวม เช่น บริเวณใบหน้า ลำคอ และร่างกาย
ให้ผลลัพธ์ที่ผิวดูกระชับขึ้นทันทีหลังทำบางส่วน และจะเห็นผลชัดเจนในช่วง 2-6 เดือน
ให้ผลอยู่ได้นานประมาณ 1-2 ปี ขึ้นอยู่กับสภาพผิวและการดูแลของแต่ละบุคคล
อาจรู้สึกร้อนลึกใต้ผิว แต่ไม่เจ็บมากนัก เพราะเครื่องมีระบบควบคุมอุณหภูมิ โดยความรู้สึกที่เกิดขึ้นจะเป็นลักษณะของความร้อนที่ลึกลงไปใต้ผิวหนัง แต่เครื่องจะมีระบบควบคุมอุณหภูมิที่ช่วยปกป้องผิวชั้นนอก ทำให้รู้สึกร้อนสบายมากกว่าความเจ็บ

- ใช้พลังงาน คลื่นเสียงความถี่สูงแบบเฉพาะจุด (Focused Ultrasound)
- ส่งพลังงานลึกถึงชั้น SMAS (ชั้นเดียวกับที่ศัลยแพทย์ใช้ในการผ่าตัดดึงหน้า)
อย่างไรก็ดี โปรแกรม Thermage และ โปรแกรม Ulthera ถือเป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับการยกกระชับผิวโดยไม่ต้องผ่าตัด โดยทั้งสองวิธีมีจุดเด่นเฉพาะตัวที่ตอบโจทย์ปัญหาผิวในรูปแบบที่แตกต่างกัน การเลือกเทคโนโลยีที่เหมาะสมจึงขึ้นอยู่กับสภาพผิว ความต้องการเฉพาะจุด และคำแนะนำจากแพทย์เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ทั้งนี้ สำหรับใครที่กำลังมองหาวิธีดูแลผิวให้กระชับและอ่อนเยาว์ โปรแกรม Thermage และ โปรแกรม Ulthera อาจเป็นคำตอบที่ช่วยเสริมความมั่นใจให้ผู้เข้ารับบริการทุกคนให้กลับมาอีกครั้ง
ข้อแตกต่างสำคัญระหว่าง
โปรแกรม Thermage และ โปรแกรม Ulthera มีความแตกต่างกันอย่างชัดเจนทั้งในด้านเทคโนโลยีที่ใช้ ชั้นผิวที่ทำงาน และลักษณะของผลลัพธ์ที่ได้
ใช้พลังงานคลื่นวิทยุ (Radiofrequency) ที่ส่งความร้อนลงไปกระตุ้นคอลลาเจนในชั้นผิวหนังแท้และชั้นไขมันใต้ผิว ทำให้ผิวโดยรวมดูเรียบเนียนและกระชับขึ้น เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อยแบบทั่วไป หรือผู้ที่มีไขมันสะสมใต้ผิว เช่น บริเวณแก้มและเหนียง
ใช้พลังงานคลื่นเสียงความถี่สูงแบบเฉพาะจุด (Focused Ultrasound) ที่ลงลึกถึงชั้น SMAS ซึ่งเป็นชั้นที่ศัลยแพทย์ใช้ในการผ่าตัดดึงหน้า ทำให้สามารถยกกระชับผิวได้อย่างแม่นยำ เหมาะสำหรับการยกกระชับเฉพาะจุด เช่น การยกคิ้ว ยกหนังตาตก หรือ ปรับแนวกรอบหน้าให้ชัดเจนขึ้น
ความแตกต่างสำคัญอีกประการคือชั้นผิวที่แต่ละเทคโนโลยีทำงาน Thermage ทำงานในระดับชั้นผิวหนังแท้และชั้นไขมัน ส่วน Ulthera ทำงานในชั้น SMAS ซึ่งลึกกว่าชั้นผิวหนังแท้ ส่งผลให้ Ulthera มีประสิทธิภาพในการยกกระชับผิวที่หย่อนคล้อยในระดับลึกได้ดีกว่า แต่ Thermage จะให้ผลลัพธ์ที่เห็นได้ชัดเจนในการปรับผิวโดยรวมให้เรียบเนียนและดูอ่อนเยาว์ขึ้น
อย่างไรก็ดี ทั้งสองวิธีนี้มีจุดเด่นที่แตกต่างกัน โดย โปรแกรม Thermage จะเหมาะกับการแก้ปัญหาผิวที่หย่อนคล้อยทั่วไป ในขณะที่โปรแกรม Ulthera จะเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเน้นการยกกระชับเฉพาะจุดและสร้างแนวกรอบหน้าที่ชัดเจนขึ้น ซึ่งผู้สนใจเข้ารับบริการสามารถปรึกษาแพทย์และเลือกได้ตามความต้องการ

สรุป โปรแกรมเทอร์มาจ vs โปรแกรมอัลเทอร่า
โปรแกรมอัลเทอร่า เป็นตัวเลือกที่ดีกว่า หากคุณมีปัญหาผิวหย่อนคล้อยลึก หรืออยากได้การยกกระชับที่มีประสิทธิภาพสูงกว่า อัลเทอร่าจะใช้คลื่นเสียงที่สามารถกระตุ้นการยกกระชับในชั้นลึกถึงชั้น SMAS ซึ่งเหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวที่หย่อนคล้อยมากขึ้น เช่น บริเวณกรอบหน้า คอ หรือลำคอที่เริ่มหย่อนคล้อย การทำอัลเทอร่าจะช่วยยกกระชับได้ลึกกว่าและให้ผลลัพธ์ที่ยาวนานกว่า
สำหรับผู้ที่ต้องการยกกระชับผิวหย่อนคล้อยในบริเวณกว้าง เช่น การยกกระชับทั้งหน้าและลำคอ โปรแกรมเทอร์มาจ อาจจะเหมาะกว่า เพราะใช้เวลาไม่นานและเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนในระยะสั้น ไม่เจ็บปวดเกินไป เหมาะกับคนที่มีเวลาน้อยและไม่อยากเจ็บตัวมาก
อย่างไรก็ตาม การเลือกใช้ โปรแกรมเทอร์มาจ หรือ โปรแกรมอัลเทอร่า นั้น ขึ้นอยู่กับลักษณะปัญหาผิวที่แต่ละคนต้องการแก้ไข โดยจากข้อมูลทั้งหมดที่กล่าวมา ทุกคนจะเห็นแล้วว่าทั้งสองเทคโนโลยีต่างก็มีคุณสมบัติที่เป็นเอกลักษณ์และเหมาะกับผู้คนที่มีปัญหาผิวที่แตกต่างกัน ดังนั้นการเลือกใช้วิธีใดวิธีหนึ่ง ควรพิจารณาตามลักษณะผิวของตัวเองและผลลัพธ์ที่คาดหวัง เพื่อให้ได้หน้าที่เรียวตึงและกระชับตามที่แต่ละคนต้องการ
แนะนำ โปรแกรม Thermage และ โปรแกรม Ulthera

เป็นเทคนิคที่ช่วยสลายไขมัน ทำให้ผิวของเราแน่นกระชับขึ้นและยังช่วยปรับสภาพผิว เพิ่มผิวเด็ก (Skin Quality) ทำให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ขึ้นโดยไม่ต้องผ่าตัด โดยใช้พลังงานคลื่นวิทยุความถี่สูงซึ่งเป็นก้อนพลังงานความร้อนลงในชั้นผิว ซึ่งเหมาะสำหรับคนที่มีไขมันบนใบหน้า โดยเฉพาะที่แก้ม และเหนียง ผิวหน้าหย่อนคล้อย และมีริ้วรอยมาก โดยหลักการทำงานของโปรแกรม Themrage FLX นั้นจะเป็นกระตุ้นการกระชับ ปล่อยพลังงานเป็น Volumetic ซึ่งจะทำให้ลดแก้มกระชับได้ดี ทั้งนี้ยังช่วย tightening ลดแก้ม เหนียงใต้คาง จะช่วยแก้ไขผิวหลวม ผิวเด้งแน่นขึ้น ได้เพิ่มเติมเรื่องงานผิวให้ดูสุขภาพดีขึ้นได้อีกด้วย

โปรแกรม Ulthera
เป็นวิธียกกระชับโดยใช้คลื่นเสียงความถี่สูง และมีความเฉพาะเจาะจง (Focused Ultrasound) ยิงลงไปใต้ชั้นผิวเพื่อให้ผิวเกิดการยกกระชับใบหน้าขึ้น โดยจะ focus ให้เกิดจุดความร้อนเล็ก ๆ เรียงกันเป็นเส้นจุดไข่ปลาตรงใต้ผิว ซึ่งจะทำให้เกิดการหดของเนื้อเยื่อตามทิศทางของคลื่นความถี่ดังกล่าวซึ่งมีความแม่นยำเป็นอย่างมากอีกหนึ่งนวัตกรรมเลยก็ว่าได้ ทั้งนี้ จุดเด่น เหมาะกับคนที่มีความหย่อนคล้อย หน้าคล้อย อยากให้ใบหน้ายก ดังนั้น ในการรักษาจะเน้นในการยกกระชับผิวใบหน้าเป็นหลัก ซึ่งเรียกได้ว่า Program Ulthera เป็นหัตถการ ที่นึกถึงเป็นอันดับแรก ๆ ของทางคลินิกของเราเลยทีเดียว
อย่างไรก็ตาม โปรแกรมยกกระชับและปรับรูปหน้าทั้งสองเทคนิคนี้เป็นเพียงบริการส่วนหนึ่งจากทาง Pattippa Clinic ของเรานั้น ซึ่งเครื่องไหนจะดีที่สุดนั้นก็จะขึ้นอยู่กับปัญหาผิวของแต่ละคนนั่นเอง ทั้งนี้ ขอเน้นย้ำอีกครั้งว่า ปัญหารูปหน้า เป็นหนึ่งในปัญหาที่ทำให้หลาย ๆ คนรู้สึกกังวลใจไม่น้อย แต่ด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่ที่ช่วยยกกระชับหน้าได้อย่างตรงสาเหตุ ก็สามารถช่วยให้ทุก ๆ คนมีใบหน้าที่ได้สัดส่วนและสมดุลมากขึ้น
บริการปรับรูปหน้าอื่น ๆ >> บริการปรับรูปหน้า Pattippa Clinic