เลเซอร์ผิวหน้า มีกี่แบบ? วิธีเลือกให้เหมาะกับปัญหาผิวของคุณ

เลเซอร์ผิวหน้า” เป็นหนึ่งในเทคโนโลยีความงามที่ช่วยแก้ไขปัญหาผิวได้อย่างตรงจุด ตั้งแต่ลดเลือนริ้วรอย จุดด่างดำ ไปจนถึงกระชับผิวและปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ แต่ด้วยตัวเลือกที่หลากหลาย การเลือกเลเซอร์ที่เหมาะกับสภาพผิวและปัญหาของคุณจึงเป็นสิ่งสำคัญ บทความนี้ Pattippa Clinic จะพาทุกคนไปรู้จักกับประเภทของเลเซอร์ผิวหน้า และวิธีเลือกให้ตรงกับความต้องการของแต่ละคนมากที่สุด

“เลเซอร์ผิวหน้า”

อีกหนึ่งแนวทางการรักษาผิวหน้าที่ทุกคนควรรู้จัก

ผิวพรรณที่ดูอ่อนเยาว์ เปล่งปลั่ง และกระชับเต่งตึงเป็นสิ่งที่หลายคนปรารถนา อย่างไรก็ตาม ปัจจัยต่าง ๆ เช่น อายุที่เพิ่มขึ้น แสงแดด มลภาวะ และความเครียด ล้วนส่งผลให้ผิวเกิดริ้วรอย ความหย่อนคล้อย และหมองคล้ำได้ง่ายขึ้น ด้วยเหตุนี้ หลายคนจึงมองหาวิธีฟื้นฟูผิวให้กลับมาดูสุขภาพดีขึ้น หนึ่งในนวัตกรรมที่ได้รับความนิยมในปัจจุบันคือ โปรแกรม PRP (Platelet-Rich Plasma) หรือการใช้พลาสม่าจากเลือดของตนเองเพื่อกระตุ้นการฟื้นฟูผิว แต่ โปรแกรม PRP ฟื้นฟูผิวดีจริงหรือไม่? เหมาะกับใครบ้าง? มาหาคำตอบกันในบทความนี้

เลเซอร์ผิวหน้าคืออะไร?

เลเซอร์ผิวหน้าเป็นเทคโนโลยีทางความงามที่ใช้พลังงานแสงเลเซอร์ในการฟื้นฟูและแก้ไขปัญหาผิวต่าง ๆ เช่น ริ้วรอย จุดด่างดำ รอยแผลเป็นจากสิว หรือสีผิวที่ไม่สม่ำเสมอ โดยเลเซอร์แต่ละประเภทมีคุณสมบัติและระดับความเข้มข้นที่แตกต่างกัน จึงควรเลือกให้เหมาะสมกับปัญหาผิวของแต่ละบุคคล

ประเภทของเลเซอร์ผิวหน้า มีอะไรบ้าง?

สำหรับการแบ่งประเภทของเลเซอร์ผิวหน้านั้น สามารถจำแนกได้ตามลักษณะของการทำงาน ดังนี้…

เลเซอร์ชนิดนี้มีพลังงานสูงและทำงานโดยการลอกผิวชั้นบนออกอย่างลึกซึ้ง ส่งผลให้เกิดการผลัดเซลล์ผิวใหม่และกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในชั้นผิวลึก เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการลดเลือนริ้วรอยลึก รอยแผลเป็นจากสิว หรือปรับสภาพผิวให้เรียบเนียนขึ้น เลเซอร์ที่จัดอยู่ในกลุ่มนี้ ได้แก่ CO2 Laser และ Erbium YAG Laser ซึ่งให้ผลลัพธ์ที่ชัดเจน แต่อาจต้องใช้ระยะเวลาพักฟื้นหลังทำ

แตกต่างจากโปรแกรมเลเซอร์แบบ Ablative ตรงที่เลเซอร์ชนิดนี้ไม่ทำลายผิวชั้นบนโดยตรง แต่จะส่งพลังงานลงไปกระตุ้นคอลลาเจนในชั้นผิวลึกแทน จึงช่วยลดเลือนริ้วรอย กระชับรูขุมขน และปรับสีผิวให้สม่ำเสมอได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตัวอย่างเลเซอร์ที่อยู่ในกลุ่มนี้ ได้แก่ โปรแกรม Nd:YAG Laser และ โปรแกรม Diode Laser ข้อดีของเลเซอร์ประเภทนี้คือมีผลข้างเคียงน้อย ไม่ต้องใช้เวลาพักฟื้นนาน อย่างไรก็ตาม มักต้องทำซ้ำหลายครั้งเพื่อให้เห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนด้วยเช่นกัน

เป็นเทคโนโลยีที่รวมข้อดีของทั้งเลเซอร์แบบ โปรแกรม Ablative และ โปรแกรม Non-Ablative เข้าไว้ด้วยกัน โดยใช้พลังงานเลเซอร์ในรูปแบบแบ่งจุดเล็ก ๆ เพื่อกระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวใหม่อย่างมีประสิทธิภาพ เหมาะสำหรับผู้ที่มีรอยแผลเป็น หลุมสิว หรือสีผิวที่ไม่เรียบเนียน ตัวอย่างของเลเซอร์ในกลุ่มนี้ ได้แก่ Fractional CO2 Laser และ Fraxel Laser ข้อดีคือใช้ระยะเวลาฟื้นตัวสั้นกว่าการทำ Ablative Laser แบบดั้งเดิม ทำให้ได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน

เลเซอร์ชนิดนี้ทำงานโดยการปล่อยพลังงานออกมาเป็นจังหวะสั้น ๆ เพื่อทำลายเม็ดสีที่ผิดปกติในผิวหนัง จึงเหมาะสำหรับการรักษาฝ้า กระ จุดด่างดำ รอยสัก รวมถึงปัญหาสีผิวไม่สม่ำเสมอ เลเซอร์ในกลุ่มนี้ที่พบได้บ่อย ได้แก่ โปรแกรม Q-Switched Nd:YAG Laser ซึ่งให้ผลลัพธ์ที่ชัดเจน อย่างไรก็ตาม เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด อาจต้องเข้ารับการรักษาหลายครั้งตามความเหมาะสมของสภาพผิว

อย่างไรก็ดี โปรแกรมเลเซอร์แต่ละประเภทมีจุดเด่นและเหมาะกับปัญหาผิวที่แตกต่างกัน ดังนั้น การเลือกใช้เลเซอร์ที่เหมาะสมควรพิจารณาตามสภาพผิวและปัญหาที่ต้องการแก้ไข นอกจากนี้ ควรเข้ารับคำแนะนำจากแพทย์ก่อนตัดสินใจทำเลเซอร์ เพื่อให้ได้รับการรักษาที่เหมาะสมและได้ผลลัพธ์ที่ตรงกับความต้องการมากที่สุด

วิธีเลือกเลเซอร์ให้เหมาะกับปัญหาผิวของเรา

ต้องบอกก่อนว่า “การเลือกเลเซอร์ที่เหมาะสมกับปัญหาผิว” นั้นเป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด เนื่องจากเลเซอร์แต่ละประเภทมีคุณสมบัติที่แตกต่างกันและออกแบบมาเพื่อแก้ไขปัญหาผิวที่เฉพาะเจาะจง การเข้าใจถึงประเภทของเลเซอร์และจุดเด่นของแต่ละชนิด จะช่วยให้สามารถตัดสินใจได้อย่างถูกต้องและตรงกับความต้องการของผิวมากที่สุดนั่นเอง

โดยการเลือกโปรแกรมเลเซอร์อาจเริ่มจากการพิจารณาปัญหาผิวที่กำลังพบอยู่ เช่น…

ริ้วรอยและความหย่อนคล้อย

เลเซอร์ Ablative หรือ Fractional Laser
ช่วยกระตุ้นคอลลาเจนและปรับผิวให้เรียบเนียนขึ้น

รอยแผลเป็น หลุมสิว

Fractional Laser ช่วยกระตุ้นการสร้าง
เซลล์ผิวใหม่และปรับผิวให้เรียบเนียน

ฝ้า กระ จุดด่างดำ

Q-Switched Laser ช่วยลดเม็ดสี
โดยไม่ทำลายเนื้อเยื่อโดยรอบ

รูขุมขนกว้าง ผิวไม่เรียบเนียน

Non-Ablative Laser กระตุ้นคอลลาเจน
ให้ผิวเรียบเนียนและกระชับขึ้น

สีผิวไม่สม่ำเสมอ

เลเซอร์ที่ช่วยลดเม็ดสีและกระตุ้นการผลัดเซลล์ผิว
เช่น Q-Switched หรือ Fractional Laser

ทั้งนี้ การเลือกเลเซอร์ที่เหมาะสมไม่เพียงช่วยแก้ไขปัญหาผิวได้อย่างตรงจุดเท่านั้น แต่ยังช่วยลดความเสี่ยงของผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้ด้วยเช่นกัน ดังนั้น เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่คาดหวังมากที่สุด ควรเข้ารับคำปรึกษาจากแพทย์ก่อนตัดสินใจเข้ารับการรักษา เพื่อให้แน่ใจว่าโปรแกรมเลเซอร์ที่เลือกนั้นเหมาะสมกับสภาพผิวและความต้องการของทุกคนอย่างแท้จริง

ข้อควรรู้ก่อนทำโปรแกรมเลเซอร์ผิวหน้า

ก่อนเข้ารับการรักษา ทุกคนควรทำความเข้าใจถึงข้อควรระวังและแนวทางการดูแลผิวเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
ซึ่งข้อควรรู้เบื้องต้นนั้น ประกอบด้วย…

  • ควรปรึกษาแพทย์ผิวหนังเพื่อเลือกประเภทเลเซอร์ที่เหมาะสมกับสภาพผิวและปัญหาที่ต้องการแก้ไข เนื่องจากเลเซอร์แต่ละชนิดมีความแตกต่างกันทั้งในด้านพลังงาน ผลลัพธ์ และระยะเวลาฟื้นตัว
  • หลีกเลี่ยงการโดนแดดจัดก่อนและหลังทำเลเซอร์ เพื่อป้องกันการเกิดรอยดำ เพราะแสงแดดอาจกระตุ้นให้เกิดรอยดำหรือผลข้างเคียงอื่น ๆ หลังจากการทำเลเซอร์
  • ควรใช้ครีมกันแดดและผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่ช่วยฟื้นฟูผิวหลังเลเซอร์ โดยการทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF สูง และใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่ช่วยฟื้นฟูและลดอาการระคายเคือง เช่น มอยส์เจอไรเซอร์ที่ให้ความชุ่มชื้นหรือผลิตภัณฑ์ที่มีสารช่วยปลอบประโลมผิว
  • ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด ไม่ว่าจะเป็นการหลีกเลี่ยงสารที่อาจก่อให้เกิดการระคายเคือง งดใช้สกินแคร์ที่มีส่วนผสมของกรดผลัดเซลล์ผิวในช่วงแรก หรือหลีกเลี่ยงกิจกรรมที่อาจทำให้ผิวเกิดการเสียดสี เพื่อให้การรักษาได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดและลดความเสี่ยงของผลข้างเคียง

อย่างไรก็ดี จากข้อมูลทั้งหมดที่กล่าวมา ทุกคนจะสามารถเห็นได้แล้วว่าโปรแกรมเลเซอร์ผิวหน้านั้นมีหลายประเภท ซึ่งแต่ละแบบมีข้อดีและข้อจำกัดที่แตกต่างกัน การเลือกให้เหมาะสมกับปัญหาผิวเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดและลดความเสี่ยงของผลข้างเคียง การปรึกษาแพทย์ก่อนตัดสินใจจึงเป็นขั้นตอนที่ขาดไม่ได้ เพื่อให้ทุกคนได้รับการรักษาที่เหมาะสมและได้ผลลัพธืตามที่คาดหวังมากที่สุด

โปรแกรม Laser รักษาผิวหน้า ที่ Pattippa Clinic

Pattippa Clinic ใช้เทคโนโลยีเลเซอร์ที่มีประสิทธิภาพสูงในการรักษาปัญหาผิวดังกล่าว โดยใช้พลังงานแสงเลเซอร์ในการลดเม็ดสีเมลานินที่สะสมในผิวหนัง ทำให้รอยสิว กระ ฝ้า และจุดด่างดำจางลง นอกจากนี้ยังช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ในผิว ทำให้ผิวดูกระจ่างใสและเรียบเนียนขึ้นในระยะยาว

ที่ Pattippa Clinic มีเทคโนโลยีเลเซอร์หลายประเภทที่เหมาะสำหรับการรักษาปัญหาผิวพรรณหลายด้าน โดยเทคโนโลยีหลักที่ใช้ในการรักษารอยสิว กระ ฝ้า จุดด่างดำ และการปรับผิวให้สม่ำเสมอ ได้แก่…

  • โปรแกรม Pico Laser – เลเซอร์ที่มีความละเอียดสูงและเหมาะกับการรักษารอยฝ้า กระ จุดด่างดำ และรอยสิวโดยเฉพาะ มีความแม่นยำสูงและไม่ทำลายเนื้อเยื่อผิวหนัง ทำให้ผิวดูกระจ่างใสและปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ
  • โปรแกรม Q-Switched ND Laser – เป็นเลเซอร์ที่ใช้พลังงานแสงความถี่ต่ำเพื่อทำลายเม็ดสีที่อยู่ใต้ผิวหนัง ช่วยให้รอยสิวและกระฝ้าจางลงอย่างรวดเร็ว และช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่
  • โปรแกรม IPL (Intense Pulsed Light) – แม้จะไม่ใช่เลเซอร์โดยตรง แต่ IPL เป็นเทคโนโลยีที่ใช้แสงในการลดเลือนรอยสิวและจุดด่างดำ โดยการทำงานของแสงจะช่วยกระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวใหม่ ทำให้ผิวหน้าดูกระจ่างใสและเรียบเนียน
  • ลดเลือนรอยสิว กระ ฝ้า จุดด่างดำ
    เทคโนโลยีเลเซอร์ที่ใช้ในโปรแกรมนี้สามารถเจาะจงรักษาเม็ดสีเมลานินที่อยู่ในผิวหนัง ทำให้รอยสิว กระ ฝ้า และจุดด่างดำจางลงอย่างชัดเจน
  • ปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ
    การใช้เลเซอร์ช่วยปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ ทำให้ใบหน้าดูเรียบเนียนและกระจ่างใสมากยิ่งขึ้น
    กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและฟื้นฟูผิวใหม่: การทำเลเซอร์ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในชั้นผิวหนัง ทำให้ผิวดูอ่อนเยาว์และกระชับมากยิ่งขึ้น
  • ไม่ต้องพักฟื้นนาน
    การรักษาด้วยเลเซอร์เป็นวิธีที่ไม่ต้องพักฟื้นนาน ผู้เข้ารับบริการสามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้ทันทีหลังทำ
  • ผลลัพธ์ระยะยาว
    โปรแกรมเลเซอร์ที่ Pattippa Clinic ให้ผลลัพธ์ที่สามารถเห็นผลได้ในระยะยาว แต่จะขึ้นอยู่กับการดูแลตัวเองของผู้เข้ารับบริการและการป้องกันผิวจากแสงแดดด้วยเช่นกัน

Pattippa Clinic ให้บริการเลเซอร์อย่างครบวงจรโดยใช้เทคนิคที่ดีและทันสมัย ขั้นตอนการรักษามีดังนี้..

  • การปรึกษาและวิเคราะห์สภาพผิว
    แพทย์ผู้ชำนาญการจะทำการวิเคราะห์สภาพผิวและปัญหาที่เกิดขึ้น เพื่อเลือกใช้เทคโนโลยีเลเซอร์ที่เหมาะสมกับปัญหาผิวของผู้เข้ารับบริการ
  • การเตรียมผิวและยาชา
    ก่อนทำเลเซอร์ แพทย์จะทำความสะอาดผิวหน้าและอาจใช้ยาชาเฉพาะที่เพื่อให้ผู้เข้ารับบริการรู้สึกสบาย
  • การทำเลเซอร์
    แพทย์จะทำการยิงเลเซอร์ในบริเวณที่ต้องการรักษา โดยปรับระดับพลังงานให้เหมาะสมกับปัญหาผิวและความต้องการของลูกค้า
  • การดูแลหลังทำเลเซอร์
    หลังทำเลเซอร์ แพทย์จะให้คำแนะนำในการดูแลตัวเอง เช่น การใช้ครีมกันแดดและครีมบำรุงที่เหมาะสม เพื่อให้ผิวฟื้นตัวได้ดีและมีผลลัพธ์ที่ยาวนาน

ติดตามข้อมูลบริการรักษาหลมสิว รอยสิวอื่น ๆ >> โปรแกรมเลเซอร์ จาก Pattippa Clinic

โปรแกรมเลเซอร์รักษาผิวหน้า ที่ไหนดี?

Pattippa clinic Ayutthaya คลินิกความงามที่ให้บริการด้านการดูแลผิวพรรณและความงามแบบ Full Service ดำเนินการโดยแพทย์เฉพาะทางสาขาเวชศาสตร์ป้องกัน แขนงสาธารณสุขศาสตร์ พร้อมทีมแพทย์เฉพาะทางและบุคลากรทางการแพทย์ที่ได้รับการอบรมด้านความงามอย่างต่อเนื่อง เพื่อบริการที่ได้มาตรฐาน พร้อมเครื่องมือและเทคโนโลยีทันสมัยที่ครอบคลุมทั้งการดูแลผิวหน้า ผิวกาย รวมถึงบริการด้านความงามอื่น ๆ ที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า ด้วยการวางแผนการรักษาที่เหมาะสมเฉพาะบุคคล ภายใต้การดูแลอย่างใกล้ชิดจากทีมแพทย์ตลอดทุกขั้นตอนการให้บริการ เพื่อผลลัพธ์ที่เหมาะสมสำหรับลูกค้าแต่ละท่าน

บทความล่าสุด

Pattippa clinic Ayutthaya คลินิกความงามที่ให้บริการด้านการดูแลผิวพรรณและความงามแบบ Full Service ดำเนินการโดยแพทย์เฉพาะทางสาขาเวชศาสตร์ป้องกัน แขนงสาธารณสุขศาสตร์ พร้อมทีมแพทย์เฉพาะทางและบุคลากรทางการแพทย์ที่ได้รับการอบรมด้านความงามอย่างต่อเนื่อง เพื่อบริการที่ได้มาตรฐาน พร้อมเครื่องมือและเทคโนโลยีทันสมัยที่ครอบคลุมทั้งการดูแลผิวหน้า ผิวกาย รวมถึงบริการด้านความงามอื่น ๆ ที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า ด้วยการวางแผนการรักษาที่เหมาะสมเฉพาะบุคคล ภายใต้การดูแลอย่างใกล้ชิดจากทีมแพทย์ตลอดทุกขั้นตอนการให้บริการ เพื่อผลลัพธ์ที่เหมาะสมสำหรับลูกค้าแต่ละท่าน