Ultraformer กับ Ulthera ต่างกันยังไง? เปรียบเทียบข้อดี ข้อควรระวัง ก่อนเลือกทำจริง

Ultraformer กับ Ulthera ต่างกันยังไง? เชื่อได้ว่าเป็นคำถามที่ผู้สนใจเข้ารับบริการยกกระชับหน้าหลาย ๆ คนยังคงสงสัยกันอยู่ ซึ่งต้องขอกล่าวก่อนว่า “ปัญหาผิวหน้าหย่อนคล้อย” ถือว่าเป็นปัญหาที่พบเจอได้ตั้งแต่วัยรุ่นไปจนถึงวัยกลางคน เกิดขึ้นได้จากหลากหลายสาเหตุ พอหน้าหย่อนคล้อยจนเริ่มไม่มั่นใจ อยากแก้ไขให้ใบหน้ายกกระชับขึ้น จะให้ผ่าตัดยกกระชับก็กลัวเจ็บ ราคาสูงและยังเสียเวลาพักฟื้นอีก ทำให้เราต้องมองหาหัตถการต่าง ๆ มาแก้ไขปัญหาของตัวเอง

Ultraformer กับ Ulthera ต่างกันยังไง

แยกให้ออก เลือกให้ถูก แก้ไขปัญหา

ในยุคที่ใคร ๆ ก็อยากหน้าเด็กแบบไม่พึ่งศัลยกรรม เทคโนโลยียกกระชับใบหน้าแบบไม่ต้องผ่าตัดจึงกลายเป็นที่นิยมอย่างมาก โดยเฉพาะ “โปรแกรม Ultraformer” และ “โปรแกรม Ulthera” ที่เป็นเครื่องยกกระชับด้วยคลื่นอัลตราซาวด์ที่หลายคนอาจเคยได้ยินชื่อ แต่สงสัยว่าต่างกันยังไง? อันไหนดีกว่า? เหมาะกับใคร? และควรระวังอะไรบ้างก่อนทำจริง? บทความนี้ Pattippa Clinic จะพาผู้อ่านทุกคนมาเปรียบเทียบอย่างละเอียด เพื่อช่วยให้ตัดสินใจได้ง่ายขึ้น

โปรแกรม Ultraformer กับ โปรแกรม Ulthera คืออะไร?

แม้จะเป็นนวัตกรรมเพื่อการยกกระชับเหมือนกัน แต่ต้องบอกก่อนว่าทั้ง 2 โปรแกรมนี้มีรูปแบบและคุณลักษณะในการทำงานที่แตกต่างกัน โดยมีรายละเอียด ดังนี้…

โปรแกรม Ultraformer คือเทคโนโลยี HIFU (High Intensity Focused Ultrasound) ที่ช่วยยกกระชับผิวหน้าและลำคอ โดยปล่อยคลื่นเสียงความถี่สูงลงสู่ผิวในระดับความลึกต่าง ๆ เพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน เหมาะกับคนที่เริ่มมีปัญหาผิวหย่อนคล้อยเล็กน้อย-ปานกลาง

โปรแกรม Ulthera เป็นเทคโนโลยี Macrofocused Ultrasound ที่ถือว่าเป็นเจ้าแรก ๆ ที่ได้รับ FDA จากสหรัฐอเมริกา ใช้พลังงานคลื่นอัลตราซาวด์แบบเฉพาะเจาะจงลงลึกถึงชั้น SMAS (ชั้นผิวเดียวกับที่ศัลยแพทย์ใช้ดึงหน้าผ่าตัด) ทำให้ได้ผลลัพธ์ในการยกกระชับที่ชัดเจน เหมาะกับคนที่มีผิวหย่อนคล้อยค่อนข้างมาก หรือมีอายุ 35 ปีขึ้นไป

อย่างไรก็ตาม แม้ว่า โปรแกรม Ultraformer และ โปรแกรม Ulthera จะเป็นนวัตกรรมยกกระชับผิวหน้าโดยไม่ต้องผ่าตัดเหมือนกัน แต่ทั้งสองโปรแกรมก็มีจุดเด่นและรูปแบบการทำงานที่แตกต่างกัน การเลือกให้เหมาะสมจึงขึ้นอยู่กับปัญหาผิว อายุ และผลลัพธ์ที่แต่ละคนต้องการด้วย

เปรียบเทียบ โปรแกรม Ultraformer

กับ โปรแกรม Ulthera ต่างกันอย่างไร?

สำหรับการเปรียบเทียบระหว่าง โปรแกรม Ultraformer และ โปรแกรม Ulthera นั้น แม้จะเป็นเครื่องมือยกกระชับผิวหน้าด้วยคลื่นอัลตราซาวด์เหมือนกัน แต่ก็มีรายละเอียดที่แตกต่างกันหลายด้าน ทั้งในเรื่องเทคโนโลยี ระดับความลึกของพลังงาน ไปจนถึงความรู้สึกขณะทำและงบประมาณที่ใช้

อย่างไรก็ตาม จากที่กล่าวไว้ในข้างต้นว่า แม้จะเป็นนวัตกรรมยกกระชับหน้าโดยไม่ต้องผ่าตัดเหมือนกัน แต่ Ultraformer และ Ulthera ก็มีความแตกต่างกันในหลายด้าน ดังนี้…

  • โปรแกรม Ultraformer
    ใช้คลื่นเสียงความถี่สูงแบบ HIFU (High Intensity Focused Ultrasound)
  • โปรแกรม Ulthera
    ใช้คลื่นเสียงแบบ Macrofocused Ultrasound ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่แม่นยำกว่า และได้รับการรับรองจาก FDA สหรัฐอเมริกา
  • โปรแกรม Ultraformer
    ปล่อยพลังงานลงลึกที่ระดับ 1.5, 3.0 และ 4.5 มิลลิเมตร
  • โปรแกรม Ulthera
    ลงลึกถึงชั้น SMAS ซึ่งเป็นชั้นเดียวกับที่ศัลยแพทย์ใช้ผ่าตัดดึงหน้า ทำให้เห็นผลชัดเจนกว่าในระยะยาว
  • โปรแกรม Ultraformer
    รู้สึกเจ็บน้อยกว่า เหมาะกับคนที่กังวลเรื่องความรู้สึกขณะทำ
  • โปรแกรม Ulthera
    อาจรู้สึกเจ็บมากกว่าเล็กน้อย เพราะลงลึกถึงชั้นผิวที่ลึกกว่า
  • โปรแกรม Ultraformer
    เห็นผลหลังทำทันทีบางส่วน และจะชัดเจนขึ้นใน 1–2 เดือน อยู่ได้นานประมาณ 4–6 เดือน
  • โปรแกรม Ulthera
    เห็นผลชัดในช่วง 2–3 เดือนหลังทำ และอยู่ได้นานถึง 1 ปี
  • โปรแกรม Ulthera
    มีจอแสดงภาพแบบ Real-time ทำให้แพทย์เห็นชั้นผิวระหว่างทำ และสามารถปล่อยพลังงานได้อย่างแม่นยำมากขึ้น
  • โปรแกรม Ultraformer
    ไม่มีจอแสดงผลแบบ Real-time แพทย์จะใช้ประสบการณ์ในการกะตำแหน่งการยิงพลังงานเป็นหลัก จึงอาจมีความคลาดเคลื่อนเล็กน้อยในบางจุด แต่ก็ยังถือว่าให้ผลลัพธ์ที่ดีสำหรับผู้ที่ไม่ได้มีปัญหาผิวหย่อนคล้อยมากนัก
  • โปรแกรม Ultraformer
    สามารถทำได้ทุก 4–6 เดือน
  • โปรแกรม Ulthera
    แนะนำปีละ 1 ครั้งก็เพียงพอ
  • โปรแกรม Ultraformer
    ราคาย่อมเยากว่า
  • โปรแกรม Ulthera
    ราคาสูงกว่า แต่ให้ผลลัพธ์ที่อยู่ได้นานกว่า
  • โปรแกรม Ultraformer
    เหมาะสำหรับผู้ที่มีอายุ 25–40 ปี มีปัญหาผิวย่อนคล้อยไม่มาก ต้องการดูแลผิวอย่างต่อเนื่องในงบที่ประหยัด
  • โปรแกรม Ulthera
    เหมาะกับผู้ที่มีอายุ 35 ปีขึ้นไป หรือมีปัญหาผิวหย่อนคล้อยชัดเจน ต้องการผลลัพธ์ที่ชัดและอยู่นาน
อย่างไรก็ตาม โปรแกรมไหนดีที่สุด ไม่ได้วัดกันที่เทคโนโลยีเพียงอย่างเดียว แต่ควรปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินสภาพผิวอย่างละเอียดก่อนเสมอ เพื่อให้ผู้เข้ารับบริการทุกคนได้รับการดูแลที่เหมาะสมและเห็นผลลัพธ์ได้อย่างมั่นใจที่สุด

แนะนำ โปรแกรม Ultraformer และ โปรแกรม Ulthera

แม้โปรแกรม Ultraformer และ โปรแกรม Ulthera จะมีจุดประสงค์หลักเหมือนกันคือ “การยกกระชับผิวหน้าโดยไม่ต้องผ่าตัด” แต่การเลือกใช้เครื่องมือใดก็ขึ้นอยู่กับ สภาพผิว และ ความต้องการของแต่ละบุคคล เป็นสำคัญ

  • สำหรับใครที่อายุยังไม่มาก ผิวยังไม่หย่อนคล้อยมากนัก และมองหาวิธีกระตุ้นคอลลาเจนแบบเบา ๆ ในงบประมาณที่จับต้องได้ โปรแกรม Ultraformer อาจเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการดูแลตัวเอง
  • แต่สำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อยค่อนข้างมาก หรืออยากได้ผลลัพธ์ชัดเจนและอยู่ได้นาน โปรแกรม Ulthera ก็เป็นตัวเลือกที่เหมาะสม

อย่างไรก็ตาม การเลือกทำหัตถการใด ๆ ควรอยู่ภายใต้การประเมินและดูแลโดยแพทย์เพื่อให้มั่นใจว่าเครื่องที่ใช้มีมาตรฐาน ได้รับการรับรอง และเหมาะสมกับสภาพผิวของทุก ๆ คนจริง ๆ เพราะ “ความงาม” ไม่ใช่แค่เรื่องผลลัพธ์ที่สวยงาม แต่คือการดูแลตัวเองอย่างถูกวิธีในระยะยาวด้วยเช่นกัน

บริการปรับรูปหน้าอื่น ๆ >> บริการปรับรูปหน้า Pattippa Clinic

( รีวิว โปรแกรม ยกกระชับ จาก Pattippa Clinic )

โปรแกรม Ultraforme และ โปรแกรม Ulthera ที่ไหนดี?

Pattippa clinic Ayutthaya คลินิกความงามที่ให้บริการด้านการดูแลผิวพรรณและความงามแบบ Full Service ดำเนินการโดยแพทย์เฉพาะทางสาขาเวชศาสตร์ป้องกัน แขนงสาธารณสุขศาสตร์ พร้อมทีมแพทย์เฉพาะทางและบุคลากรทางการแพทย์ที่ได้รับการอบรมด้านความงามอย่างต่อเนื่อง เพื่อบริการที่ได้มาตรฐาน พร้อมเครื่องมือและเทคโนโลยีทันสมัยที่ครอบคลุมทั้งการดูแลผิวหน้า ผิวกาย รวมถึงบริการด้านความงามอื่น ๆ ที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า ด้วยการวางแผนการรักษาที่เหมาะสมเฉพาะบุคคล ภายใต้การดูแลอย่างใกล้ชิดจากทีมแพทย์ตลอดทุกขั้นตอนการให้บริการ เพื่อผลลัพธ์ที่เหมาะสมสำหรับลูกค้าแต่ละท่าน

บทความล่าสุด

Pattippa clinic Ayutthaya คลินิกความงามที่ให้บริการด้านการดูแลผิวพรรณและความงามแบบ Full Service ดำเนินการโดยแพทย์เฉพาะทางสาขาเวชศาสตร์ป้องกัน แขนงสาธารณสุขศาสตร์ พร้อมทีมแพทย์เฉพาะทางและบุคลากรทางการแพทย์ที่ได้รับการอบรมด้านความงามอย่างต่อเนื่อง เพื่อบริการที่ได้มาตรฐาน พร้อมเครื่องมือและเทคโนโลยีทันสมัยที่ครอบคลุมทั้งการดูแลผิวหน้า ผิวกาย รวมถึงบริการด้านความงามอื่น ๆ ที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า ด้วยการวางแผนการรักษาที่เหมาะสมเฉพาะบุคคล ภายใต้การดูแลอย่างใกล้ชิดจากทีมแพทย์ตลอดทุกขั้นตอนการให้บริการ เพื่อผลลัพธ์ที่เหมาะสมสำหรับลูกค้าแต่ละท่าน